ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ คำนี้มักมาพร้อมความหวังบางอย่าง แต่ก็มีความรู้สึกหนึ่งที่เกิดซ้ำอยู่เงียบๆ ไม่ว่าปีใหม่จะผ่านมากี่ครั้ง ชีวิตหลายช่วงก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม, เหนื่อยแบบเดิม, คิดแบบเดิมและวนกลับมาที่คำถามเดิม bansurvival อยากให้คุณได้เห็นว่า นี่อาจไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวเอง แต่อาจเกี่ยวกับการหยุดใช้เรื่องราวในอดีต ที่เคยใช้อธิบายตัวเองมานาน ว่าทำไมปัจจุบันถึงเป็นแบบนี้?
ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ บางทีไม่ได้ติดอยู่กับอดีต แต่ติดอยู่กับเรื่องเล่าชีวิต
เมื่อไหร่ที่กรอบคำอธิบายไม่เปลี่ยน เรื่องเล่าชีวิตก็ยังคงไม่เปลี่ยนตาม ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ จึงเป็นถ้อยคำที่ถูกเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการปล่อยอดีต แต่ความจริงคือ อดีตไม่ได้รั้งใครไว้ สิ่งที่ยังอยู่คือเรื่องเล่าชีวิต ที่ถูกใช้ซ้ำเพื่ออธิบายตัวเองและนี่คือจุดที่อดีตกับการตัดสินใจเริ่มเชื่อมโยงกันผ่านเหตุการณ์เล็กๆ เช่น
- เคยพลาด จึงไม่กล้าเริ่มใหม่
- เคยเจ็บ จึงระวังมากขึ้น
- เคยเป็นแบบนี้ จึงคิดว่าคงเปลี่ยนยาก
- เคยพยายามเต็มที่แล้วไม่สำเร็จ จึงลดความหวังลง
- เคยถูกปฏิเสธ จึงเลือกเงียบโดยไม่รู้ตัว
- เคยเชื่อใจผิดคน จึงเก็บระยะห่างไว้เสมอ แม้ในวันที่ไม่จำเป็น
- เคยเริ่มต้นแล้วต้องหยุดกลางทาง จึงรอให้พร้อมกว่านี้อยู่เรื่อยๆ
- เคยถูกเปรียบเทียบ จึงไม่ค่อยกล้าขยับออกจากจุดเดิม
- เคยทำได้ดีช่วงหนึ่งแล้วหลุด จึงไม่แน่ใจว่าครั้งใหม่จะต่างออกไปไหม?
- เคยชินกับการประคองตัว จึงเลือกความคุ้นเคยมากกว่าความเป็นไปได้
ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ กับอดีตและการตัดสินใจที่ไม่ได้กำหนดทุกอย่าง
เมื่อเรื่องราวในอดีตแอบทำงานเงียบๆ อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจแทบทุกครั้ง ปีใหม่เริ่มต้นใหม่จึงกลายเป็นสิ่งที่แทบไม่เกิดขึ้น เมื่ออดีตและความทรงจำยังอยู่ ความเป็นไปได้ใหม่ก็แทบไม่มี ทำให้สิ่งที่มีอิทธิพลเพิ่มขึ้นกลายเป็น การตีความในอดีตและวิธีที่เรื่องเล่าชีวิตซ้ำๆ ของตัวเอง
การตีความอดีต คือ สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์เดียวกันกลายเป็นข้อจำกัดหรือกลายเป็นข้อมูล ที่ทำให้บางช่วงเวลาถูกใช้เป็นเหตุผลในการหยุดลงมือทำและบางช่วงเวลาคนเราเริ่มเพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆ ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องของความถูกหรือผิด แต่เป็นจุดที่ต้องมองอย่างซื่อสัตย์ว่า การตีความอดีตแบบเดิม ยังจำเป็นกับปัจจุบันที่เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่?
ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ บางเรื่องในอดีต เราอาจไม่ต้องแก้ไข
เมื่อความคิดเดิมและวิธีอธิบายชีวิตยังไม่เปลี่ยน ปีใหม่เริ่มต้นใหม่จึงค่อยๆ กลายเป็นช่วงเวลาที่ความทรงจำเดิมเริ่มกลับมาอีกครั้ง การทำความเข้าใจหรือการแก้ไขอดีตจึงเริ่มต้นขึ้น แต่บางเรื่องในอดีต ไม่ได้ต้องการการแก้ไขเลย ไม่ใช่เพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่อาจเพราะไม่จำเป็นสำหรับปัจจุบันที่เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งการพยายามแก้ทุกอย่าง อาจกลายเป็นการผูกตัวเองไว้กับสิ่งที่หมดบทบาทไปแล้วโดยไม่รู้ตัว การหยุดใช้อดีตอธิบายตัวเอง จึงไม่ใช่การปฏิเสธอดีต แต่คือการยอมรับว่า บางสิ่งได้จบลงแล้ว
ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ เมื่อหยุดใช้อดีตอธิบายปัจจุบัน พื้นที่ใหม่จะเปิดเอง
ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่รับประกันว่าชีวิตจะดีขึ้นทันที แต่มีความจริงหนึ่งที่เกิดขึ้นเสมอ เมื่อไม่ใช้อดีตอธิบายปัจจุบันและไม่ต้องใช้เหตุผลเดิมเป็นฐานของการตัดสินใจ หากเหตุผลเดิมไม่ถูกเรียกใช้ การตัดสินใจจึงไม่จำเป็นต้องถูกดึงกลับไปที่เรื่องเล่าเก่าและอนาคตอาจไม่ต้องถูกอธิบายด้วยเรื่องราวแบบเดิม ถ้ายังไม่รู้ว่าควรเลือกอะไรหรือควรเปลี่ยนอะไร? ไม่ต้องรีบหาคำตอบในตอนนี้ เพียงแค่วางเรื่องราวเดิมลงชั่วคราว แล้วอาจเริ่มเห็นว่าเรื่องราวเก่าและเหตุผลเดิมๆ ไม่ต้องถูกใช้ต่อในทุกช่วงเวลาเสมอไป
ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ ด้วยการเปลี่ยนมุมมองชีวิต โดยไม่ต้องฝืน
เปลี่ยนมุมมองชีวิต ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการคิดบวกและไม่ต้องลืมอดีต ปีใหม่เริ่มต้นใหม่สามารถเริ่มได้จากการเลิกยึดอดีตหรือวิธีอื่นๆ โดยไม่ต้องฝืนใจตัวเอง ไม่ต้องพิสูจน์ว่าอดีตผิดและไม่ต้องทำให้ถูกต้อง เพียงแค่ไม่หยิบเรื่องเดิมมาอธิบายทุกอย่างในปัจจุบัน เมื่อเรื่องเล่าเดิมไม่ถูกใช้ ความคิดใหม่จะค่อยๆ เกิดขึ้นเอง
สรุปโดย bansurvival
ทำไมชีวิตไม่เปลี่ยน ทั้งที่ผ่านปีใหม่มาหลายครั้ง ปีใหม่เริ่มต้นใหม่ จำเป็นต้องลืมอดีตจริงหรือ? แล้วตอนนี้ยังจำเป็นต้องใช้อดีต มาอธิบายว่าตัวเราเป็นใครหรือเปล่า? หลายความเชื่อเกี่ยวกับตัวเองที่ใช้มานานจนกลายเป็นกรอบของการตัดสินใจโดยไม่รู้ตัว กำลังส่งผลให้เชื่ออย่างไร? ถ้าตอนนี้อยากเปลี่ยนเป็นแบบไหน? ไม่ต้องเร่งการตัดสินใจว่าควรเลือกอะไร bansurvival เพียงอยากให้คุณมองให้เห็นว่า บางเรื่องอาจไม่ต้องพาไปต่อ แล้วอะไรบางอย่างอาจค่อยๆ เปลี่ยนเอง ในเวลาที่เหมาะสม




